คปภ.ขยายพื้นที่ประกันนาข้าว 2 ล.ไร่ คุ้มครองความเสียหายภัยธรรมชาติ 6 ชนิด

 
 
คปภ.ถกหน่วยงานเกี่ยวข้องภาครัฐ ขยายพื้นที่ประกันภัยข้าวนาปีเป็น 2 ล้านไร่ เหตุชาวนาแห่ทำประกันฯ หลังเจอภัยแล้ง ขณะเดียวกัน เร่ง 3 ค่ายประกันภัย รีบจ่ายสินไหมเหยื่ออุบัติเหตุ
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ยอดการจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูล ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2558 ยอดจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี มีทั้งสิ้น 1.33 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 89.1 ของพื้นที่เป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.5 ล้านไร่ ทำให้คาดว่าก่อนปิดการขายกรมธรรม์ ยอดขายจะเกินเป้าหมายแน่นอน
นายประเวช กล่าวว่า สำนักงาน คปภ. ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสมาคมประกันวินาศภัยไทย ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้ขยายพื้นที่เป้าหมายการรับประกันภัยข้าวนาปี เพิ่มเติมอีก 5 แสนไร่ รวมเป็น 2 ล้านไร่ ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ยังดำเนินการขายประกันภัยข้าวนาปีตามปกติจนครบจำนวนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.5 ล้านไร่ เมื่อ ครม.อนุมัติการขยายพื้นที่เป้าหมาย และวงเงินเพิ่มแล้ว ธ.ก.ส.ก็จะดำเนินการขายกรมธรรม์ต่อไป” เลขาธิการ คปภ.กล่าว
นายประเวช กล่าวอีกว่า กรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ 6 ประเภท และความเสียหายจากศัตรูพืชและโรคระบาด โดยความคุ้มครองดังกล่าวถือได้ว่าครอบคลุมและทั่วถึง ซึ่งทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ จากการทำประกันภัยดังกล่าวอย่างคุ้มค่า
“ขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาภัยแล้งเนื่องจากฝนทิ้งช่วง ไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจึงเกิดความกังวลว่าข้าวที่ปลูกไว้จะได้ผลผลิตต่ำกว่าปกติ จึงต้องหาเครื่องมือรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ทำให้เกษตรกรเห็นความสำคัญของการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 ส่งผลให้ยอดการจำหน่ายกรมธรรม์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” นายประเวช กล่าว
ทั้งนี้ ยอดการจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 จำนวน 1.33 ล้านไร่ พื้นที่ที่มียอดการจำหน่ายสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ อันดับที่หนึ่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จำนวน 569,665 ไร่ อันดับที่สอง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จำนวน 506,553 ไร่ และอันดับที่สาม ภาคเหนือตอนล่าง จำนวน 175,449 ไร่ โดยสำนักงาน คปภ.เชื่อว่ายังมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวสนใจทำประกันภัยข้าวนาปีอีกเป็นจำนวนมาก เพราะโครงการนี้ผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดคือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
สำหรับโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 เปิดขายกรมธรรม์ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม-14 สิงหาคม 2558 สำหรับทุกภาค ยกเว้นภาคใต้ ที่เปิดขายจนถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2558 โดยมีบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 7 บริษัท ได้แก่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์จำกัด (มหาชน), บริษัท ทูนประกันภัยจำกัด (มหาชน) และ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)
นายประเวช กล่าวถึงเรื่องการเร่งดำเนินการประสานกับบริษัทประกันภัยให้ทำการจ่ายค่าสินไหมทดแทน แก่ทายาทผู้เสียชีวิต กรณีคณะรองเสนาธิการกองทัพไทยเกิดประสบอุบัติเหตุที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงประสานโรงพยาบาลที่รับรักษาผู้บาดเจ็บ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านค่ารักษาพยาบาล
“สำนักงาน คปภ.ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และจะเร่งประสานบริษัทประกันภัยโดยด่วน เพื่อการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ทายาทผู้เสียชีวิต” เลขาธิการ คปภ. กล่าว
สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่คณะรองเสนาธิการกองทัพไทย เดินทางไปตรวจเยี่ยม และติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถูกรถปิกอัพหมายเลขทะเบียน กง 610 ชุมพร เสียหลักพุงชนรถตู้ของคณะรองเสนาธิการกองทัพไทย หมายเลขทะเบียน ฮร 8721 กรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้ทหารเรือที่เดินทางมากับรถตู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 นาย และบาดเจ็บ 1 นาย
นายประเวช กล่าวว่า เบื้องต้นสำนักงาน คปภ.สุราษฎร์ธานี รายงานว่า รถปิกอัพคันดังกล่าว มีประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 1 ) กับบริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) รวมทั้งมีประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วย ส่วนรถตู้มีประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับบริษัท เอเชียประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ สำหรับการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตในเบื้องต้น ทาง สนง.คปภ.สุราษฎร์ ได้ประสานกับบริษัท ประกันคุ้มภัยฯ ซึ่งบริษัทประกัน ดังกล่าวได้แจ้งในเบื้องต้นว่า จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท/คน และประกันภัยรถภาคสมัครใจจ่ายเต็มตามความคุ้มครองตามกรมธรรม์ จำนวนเงิน 500,000 บาท/คน ในส่วนของบริษัท ไทยประกันภัยฯ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท/คน
โดย สนง.คปภ.สุราษฎร์ ได้ประสานไปยังพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร (สภ.) คีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว ปรากฏว่าในการสอบสวนเบื้องต้นน่าจะเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่รถปิกอัพ ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ.จะดำเนินการสรุปรายละเอียด และจะรายงานให้ทราบต่อไป
 
ที่มา : มิตรแท้ประกันภัย